|
จะสั่งแผ่นพื้น Hollow Core อย่างไรไม่ให้พลาด
ในการสั่งซื้อแผ่นพื้น Hollow Core หากผู้สั่งซื้อไม่รู้เกี่ยวกับสิ่งที่ต้องการซื้อเป็นอย่างดี อาจทำให้เกิดความเสียหายเกิดขึ้นได้ เนื่องจากแผ่นพื้น Hollow Core เป็นสินค้าสั่งผลิต (made to order) ไม่ใช่สินค้าที่ผลิตตามขนาดมาตรฐานและเก็บไว้ขาย (made to stock) ดังนั้นเมื่อลูกค้ายืนยันคำสั่งซื้อและทางโรงงานได้ผลิตสินค้าแล้ว ลูกค้าจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของสินค้าหรือคืนสินค้าได้ในกรณีที่ลูกค้าสั่งสินค้าผิดเช่น ความยาวของแผ่นผิด, ความหนาของแผ่นผิด, กำลังการรับ Load ผิด หรือสั่งเกินจำนวนที่ต้องการ นั่นหมายความว่าลูกค้าจะต้องรับสินค้าที่ผลิตเรียบร้อยแล้วไป ทั้งๆที่อาจจะนำไปใช้งานไม่ได้ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเสียหายกับโครงการในด้านของต้นทุนและระยะเวลาในการดำเนินโครงการได้
ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความผิดพลาดเหล่านี้ขึ้น ผู้สั่งหรือลูกค้าจำเป็นต้องรู้สิ่งเหล่านี้
- จะต้องรู้ว่าแผ่นพื้น Hollow Core ที่เราต้องการ จะต้องรับ Load ได้เท่าไหร่ - จะต้องรู้ความหนาของแผ่นพื้น Hollow Core ที่ต้องการ - จะต้องคำนวณความยาวของแผ่นพื้น Hollow Core ที่จะใช้ได้ถูกต้อง - จะต้องสามารถคำนวณจำนวนแผ่นพื้น Hollow Core ที่เราต้องการใช้ได้ถูกต้อง
1. การรับโหลดของแผ่นพื้น Hollow Core โดยปกติแล้วทางวิศวกรผู้ออกแบบจะกำหนดค่าการรับโหลดของแผ่นพื้น Hollow Core มาตั้งแต่ขั้นตอนการออกแบบ ดังนั้นก่อนสั่งซื้อแผ่นพื้น Hollow Core ผู้สั่งซื้อจะต้องสอบถามค่าการรับโหลดจากวิศวกร หรือดูจากแบบให้เรียบร้อยก่อนสั่งซื้อ
2. ความหนาของแผ่นพื้น Hollow Core เนื่องจากความหนาของแผ่นพื้น Hollow Core มีหลายขนาดดังนี้ 6, 8, 10, 12, 15, 20, 25 และ 30 ซม. ดังนั้นก่อนจะสั่งซื้อแผ่นพื้น Hollow Core เราจะต้องรู้ว่าความหนาของแผ่นพื้น Hollow Core ที่ต้องการใช้งานมีขนาดเท่าใด หากเราเลือกขนาดไม่ตรงกับที่ออกแบบมา ก็จะทำให้พื้นที่ได้สูงหรือต่ำกว่าปกติ หรือไม่เสมอกับที่ออกแบบไว้นั่นเอง
3. ความยาวแผ่นพื้น Hollow Core โดยปกติแล้วในแบบก่อสร้างจะไม่ได้บอกขนาดความยาวของแผ่นพื้น Hollow Core มาให้แต่ในแบบจะบอกข้อมูลที่เราสามารถนำมาคำนวณหาความยาวของแผ่นพื้นที่เหมาะสมกับแบบของเราได้ ยกตัวอย่างตามรูปด้านล่าง เราสามารถคำนวณหาความยาวของแผ่นพื้นที่จะใช้วางตามแบบได้ดังนี้
จากรูปตัวอย่างด้านบนเราจะเห็นว่าเราในแบบกำหนดข้อมูลต่างๆ ดังนี้
- ทิศทางการวางแผ่นให้วางตามแนว A-B โดยจะสังเกตได้จากสัญลักษณ์  (สังเกตเส้น  ที่อยู่บนหัว  จะเป็นเส้นที่บอกทิศทางการพาดแผ่นพื้น) คือให้หัวแผ่นด้านหนึ่งพาดที่คาน A และหัวแผ่นอีกด้านหนึ่งพาดที่คาน B จะวางพาดตามแนว 1-2 ไม่ได้ - ระยะจากกึ่งกลางคานถึงกึ่งกลางคานเท่ากับ 4 เมตร - คานมีความกว้าง 20 ซม. - ความยาวของคานที่จะต้องวางแผ่นให้เต็มเท่ากับ 6 เมตร
จากข้อมูลด้านบนเราจะสามารถนำมาคำนวณหาความยาวของแผ่นพื้นได้ดังนี้
- ความยาวแผ่นพื้น = ระยะจากริมคานด้านในถึงริมคานด้านใน + 2เท่าของระยะนั่งคาน
o ระยะจากริมคานด้านในถึงริมคานด้านในหรือเรียกว่าระยะ clear span จากตัวอย่างระยะ clear span จะเท่ากับ 3.8 เมตร ซึ่งได้มาจาก ระยะกึ่งกลางคาน – ความกว้างคาน (4-0.2 = 3.8)
o ระยะนั่งคานคือระยะที่หัวแผ่นพื้นซ้อนทับกับคาน ซึ่งตามปกติระยะนั่งคานจะอยู่ในช่วง 7.5 – 10 ซม.ขึ้นอยู่กับขนาดของคานถ้าเป็นคาน 20 ซม. ระยะนั่งคานจะอยู่ที่ 7.5 ซม. ถ้าเป็นคานที่ใหญ่กว่านั้นระยะนั่งคานก็จะอยู่ที่ 10 ซม. จากตัวอย่างนี้ความกว้างของคานเท่ากับ 20 ซม. ดังนั้นเราจะใช้ระยะซ้อนทับหรือระยะนั่งคานที่ 7.5 ซม.หรือ 0.075 เมตร นั่นเอง
- ดังนั้นเราจะคำนวณความยาวแผ่นพื้นสำหรับตัวอย่างนี้ได้ดังนี้ ความยาวแผ่นพื้น = 3.8 + (2 x 0.075) = 3.8 + 0.15 = 3.95 เมตร
4. จำนวนแผ่นพื้น Hollow Core การคำนวณหาจำนวนแผ่นพื้นสามารถหาได้จาก ความยาวของคานหารด้วยความกว้างของแผ่น โดยปกติความกว้างของแผ่นพื้น Hollow Core จะมี 3 ขนาดความกว้างคือ 30, 60 และ 120 ซม. จากรูปตัวอย่างเราจะเห็นว่าความยาวของคานจะอยู่ที่ 6 เมตร ดังนั้นถ้าเราใช้
1. แผ่นที่มีความกว้าง 30 ซม. เราจะต้องใช้แผ่น 600/30 = 20 แผ่น 2. แผ่นที่มีความกว้าง 60 ซม. เราจะต้องใช้แผ่น 600/60 = 10 แผ่น 3. แผ่นที่มีความกว้าง 120 ซม. เราจะต้องใช้แผ่น 600/120 = 5 แผ่น
การที่เราจะเลือกใช้แผ่นพื้นหน้ากว้างเท่าไหร่นั้นอาจจะต้องพิจารณาถึงการทำงานของหน้างานด้วยเช่น แผ่นพื้นที่มีหน้ากว้างมากกว่าก็จะมีน้ำหนักต่อแผ่นที่มากกว่า ซึ่งจะมีผลต่อการติดตั้งอาจจะต้องใช้เครนที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในการยกแผ่นขึ้นติดตั้ง
ถ้าหากผู้ที่มีหน้าที่สั่งซื้อสามารถเข้าใจสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะสามารถสั่งซื้อแผ่นพื้น Hollow Core ได้อย่างถูกต้องและตรงตามความต้องการของโครงการได้ ซึ่งจะช่วยลดความผิดพลาดและความสูญเสียให้กับโครงการได้
|